News

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

  • Published 2 year last on Jun 20, 2022

 

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

                    บริษัท เอลโม เทค จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญเรื่องสิทธิความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท (“ท่าน”) และมีความรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของบริษัท และมุ่งมั่นที่จะจัดการข้อมูลดังกล่าว บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) เพื่ออธิบายถึงวิธีปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว และชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ การเปิดเผย และวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมแจ้งสิทธิต่าง ๆของท่าน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

 

 

ข้อที่ 1 ประเภทเจ้าของข้อมูล

บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ตามประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) แต่ละฉบับ โดยแยกตามประเภทของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  1. พนักงาน หมายถึง ลูกจ้าง หรือบุคคลที่ทำงานในระดับปฏิบัติการจนถึงระดับหัวหน้าฝ่าย/แผนกที่ปฏิบัติงานอยู่ในบริษัท เอลโม เทค จำกัด และได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง สวัสดิการ หรือค่าตอบแทนจากบริษัท และให้หมายความรวมถึงนักศึกษาฝึกงาน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับพนักงาน
  2. ผู้สมัครงาน หมายถึง บุคคลที่ได้ยื่นใบสมัครงาน/สมัครฝึกงาน หรือบุคคลอื่นใดที่ส่งรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวมาที่บริษัท อันมีวัตถุประสงค์เพื่อสมัครงาน/สมัครฝึกงาน เป็นพนักงานประจำ หรือพนักงานสัญญาจ้าง และให้หมายความรวมถึงพนักงานที่อยู่ภายใต้การจ้างงานของบริษัทจัดหางาน แต่ยังไม่ได้รับคัดเลือกจากบริษัท สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับพนักงาน
  3. ลูกค้า หมายถึง บุคคลธรรมดา ตัวแทนนิติบุคคลที่ซื้อหรือใช้บริการจากบริษัท เช่น กรรมการ ผู้มีอำนาจลงนาม ผู้รับมอบอำนาจ พนักงาน และลูกจ้างของนิติบุคคลที่ได้เข้าร่วม หรือจะเข้าร่วมทำธุรกรรมต่าง ๆ กับบริษัท และผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับคู่ค้าและลูกค้า
  4. คู่ค้า หมายถึง บุคคลที่เข้าเสนอราคาเพื่อขายสินค้า และ/หรือให้บริการแก่บริษัท อาทิ ผู้ให้บริการ ผู้รับเหมา
    ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ วิทยากร ผู้เข้าร่วมโครงการธุรกิจ คู่สัญญา หรือมีความสัมพันธ์อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับบริษัท เป็นต้น สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับคู่ค้าและลูกค้า
  5. บุคคลทั่วไป หมายถึง บุคคลที่ติดต่อบริษัท เช่น ผู้มาติดต่อบุคคลภายในบริษัท ผู้ใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท
    ผู้ที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลจากบริษัท เจ้าหน้าที่ของภาครัฐ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับบุคคลทั่วไป

 

ข้อที่ 2 การคุ้มครองความเป็นส่วนตัว

บริษัทได้แจ้งประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ที่ระบุถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และแจ้งถึงรายละเอียดข้อมูล โดยได้ระบุไว้ ดังนี้

  1. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลและส่วนบุคคลอ่อนไหวที่บริษัทจัดเก็บไว้
  2. วัตถุประสงค์ของการเก็บข้อมูลและการเปิดเผยข้อมูล
  3. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล
  4. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และวิธีการใช้สิทธิ
  5. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
  6. ช่องทางการติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ควบคุมข้อมูล

 

ข้อที่ 3 การเก็บและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยข้อมูล
ส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอในการรักษาความลับ เพื่อป้องกันการเข้าถึง แก้ไข สูญหาย เปิดเผยข้อมูล หรือทำลาย โดยบริษัทจะเก็บและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้เงื่อนไข ดังนี้

  1. บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บุคลลได้ให้ไว้กับบริษัท โดยมีการจำกัดสิทธิในการเข้าถึงและดำเนินวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยการประมวลผลข้อมูลดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่บริษัท
    ได้กำหนดไว้เท่านั้น อีกทั้ง บริษัทจะแจ้งให้ท่านรับรู้เมื่อมีการดำเนินการ ด้วยวิธีการของบริษัท
  2. บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
    จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้ บริษัทสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้โดย
    ไม่ต้องขอความยินยอม
    1. เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ อันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ หรือเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ โดยบริษัทจะจัดให้มีมาตรการป้องกันเหมาะสม เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
    2. เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
    3. เพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อดำเนินการตามคำขอ
      ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญา
    4. เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐตามที่ได้มอบหมายแก่บริษัท
    5. เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
    6. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
  3. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว บริษัทจะต้องขอความยินยอมเป็นเอกสารลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน หรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนดโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย โดยบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เพื่อการให้บริการบางรูปแบบ เมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเมื่อท่านสมัครใจเปิดเผยข้อมูล ต่อสาธารณะ หรือเมื่อเป็นกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
  4. ในกรณีที่บริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนด บริษัทจะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือไปยังเจ้าของข้อมูลเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยบุคคลควรอ่านนโยบายหรือประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับนโยบายฉบับนี้ และ/หรือหนังสือดังกล่าว (แล้วแต่กรณี)

 

ข้อที่ 4 การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

  1. บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น หากบริษัทต้องการเก็บรวมรวม ใช้ เปลี่ยนแปลง หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบก่อนที่จะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตให้ดำเนินการได้ทันที
  2. บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างระแวดระวัง หากบริษัทใช้บริการสารสนเทศของผู้ให้บริการภายนอก บริษัทจะรักษาความปลอดภัยและควบคุมการเข้าถึง ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคล
  3. บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บในปัจจุบัน และที่จะได้จัดเก็บในอนาคต ให้แก่บริษัทในกลุ่มบริษัท เอลโม เทค จำกัด ตามรายชื่อพันธมิตร คู่ค้า บุคคล หรือนิติบุคคลอื่นภายในขอบเขตตามที่มีข้อตกลงร่วมกัน

 

ข้อที่ 5 การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

  1. บริษัทแต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายและนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลภายในบริษัท
  2. บริษัทจะแจ้งวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและรายละเอียดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notices) และการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสอดคล้องกับกฎหมายรวมทั้งจัดให้มีมาตรการดูแลและตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว
  3. บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นธรรมแก่เจ้าของข้อมูลภายใต้ขอบเขตวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
  4. บริษัทจะจัดทำบันทึกรายการข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บหรือใช้ (Records of Processing Activity: ROPA) เพื่อใช้บันทึกกิจกรรมที่มีการดำเนินการของข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมาย ปรับปรุงบันทึก การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรายการหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องตลอดเวลา
  5. บริษัทจัดให้มีแนวทางในการอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้เฉพาะบุคคลที่จำเป็นต้องรู้ และเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ตามขอบเขตของการครอบครองข้อมูลที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่ระบุในสัญญา หากมีการขอเข้าถึงข้อมูลจากบุคคลอื่น ต้องดำเนินการตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
  6. ในกรณีที่บริษัทส่ง โอน หรือให้บุคคลอื่นใช้ข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะจัดทำข้อตกลงเกี่ยวกับการใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลนั้นเพื่อกำหนดสิทธิและหน้าที่ให้สอดคล้องกับกฎหมายและนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
  7. บริษัทจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อครบกำหนดระยะเวลาโดยปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายและแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท
  8. บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนและปรับปรุงนโยบาย มาตรฐานการปฏิบัติงาน แนวปฏิบัติ ขั้นตอนปฏิบัติ และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำ เพื่อให้ทันสมัยสอดคล้องกับกฎหมายและสถานการณ์

 

ข้อที่ 6 ระยะเวลาในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล        

บริษัทจะเก็บข้อมูลท่านไว้ตามประเภท และวัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังที่ระบุในประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ของบริษัท เมื่อครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บจากระบบของบริษัท และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัท (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ หรือดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  เว้นแต่จะเป็นกรณีที่บริษัท สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด

อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าว หากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ที่จำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของบริษัท การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจผู้เกี่ยวข้อง และเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจหรือโดยชอบตามกฎหมาย

 

ข้อที่ 7 สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยท่านสามารถส่งคำขอให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนดในการดำเนินการตามสิทธิ ดังต่อไปนี้

  1. สิทธิขอถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับบริษัท
  2. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูล รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
  3. สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้
  4. สิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้
  5. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของงานได้ หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายและประกาศ
  6. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใด
  7. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  8. สิทธิร้องเรียนต่อบริษัทผ่านแบบฟอร์มแบบคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 

ข้อที่ 8 การรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงกำหนดนโยบาย ระเบียบ แนวปฏิบัติ และขั้นตอนวิธีการต่าง ๆ ดังนี้

  1. กำหนดนโยบายและขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ชัดเจน เพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อจัดการข้อมูล
    ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดอย่างปลอดภัย
  2. ไม่จำหน่ายหรือขายข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลไม่ว่ากรณีใด และจะไม่โอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลอื่น
    ที่ไม่ใช่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
  3. จำกัดสิทธิบุคคลในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และกำหนดสิทธิในการเข้าถึง หรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
    ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูล
  4. ป้องกันการเข้าถึงนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจัดให้มีการตรวจสอบตัวตนหรือเทคโนโลยีการตรวจจับไวรัส ตามความจำเป็น
  5. ตรวจสอบสถานะ ลูกค้า คู่ค้าของบริษัท กำหนดให้ ลูกค้า คู่ค้าที่ทำธุรกิจกับบริษัท ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกำหนดข้อจำกัดการใช้ข้อมูล
    ส่วนบุคคล
  6. ติดตามตรวจสอบเว็บไซต์ของบริษัท ผ่านหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
  7. กำหนดให้พนักงานของบริษัท ต้องมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล
  8. ประเมินผลแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การจัดการข้อมูล และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลทางเทคนิค ทางกายภาพ และทางธุรการที่เหมาะสม รวมถึง ทบทวนมาตรการรักษา
    ความปลอดภัยเมื่อมีความจำเป็น หรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป
  9. จัดให้มีระบบการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
  10. จัดให้มีระบบการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายใน 72 ชั่งโมง ในกรณีที่เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล นับแต่ทราบเหตุเท่าที่จะสามารถกระทำได้ เว้นแต่การละเมิดดังกล่าวไม่มีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล

 

ข้อที่ 9 ข้อมูลติดต่อ

กรณีที่เจ้าของข้อมูลมีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิตามที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้ หรือสอบถามเพิ่มเติม ผ่านช่องทาง ดังนี้

คณะเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO)
อีเมล : [email protected]
ที่อยู่ : 68 ซอยรินรดา ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250

 

ข้อที่ 10 การแก้ไขเปลี่ยนแปลง

บริษัทอาจมีการแก้ไข ทบทวน และปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่จะมีผลบังคับใช้ ณ เวลาที่ได้เผยแพร่ต่อไปโดยมิต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ เพื่อความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการให้บริการ ดังนั้น บริษัทจึงขอแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทุกครั้งที่เยี่ยมชม หรือใช้บริการจากเว็บไซต์บริษัท https://www.elmotech.co.th

                   

จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

 

 

ประกาศ ณ วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2565

 

( นางสาว ศิริณี กันทา)
    Vice President